ตั้งแต่จบมา ทำงาน IT มา ก็ค่อนข้างอยู่กับ IT มาตลอด แต่ยังไม่เคยคิดว่าจะมานั่งเขียน Blog เกี่ยวกับ IT สักครั้งเลยครับ เนื่องจากเห็นคนอื่นเขียนกันเยอะ แถมยังรู้จริง รู้ลึกซะอีก ก็เลยอาศัยอ่านเอาซะส่วนใหญ่ ไม่ได้เขียนสักที
จนแล้วจนรอด จนกระทั่งมาวันนี้ วันที่ Google ออก Product อันลือลั่นไปทั่ววงการ IT ได้แก่ Google Plus หรือชื่อเล่นว่า G+ แต่ก็ยังไม่ได้คิดจะเขียน หรือจะพูดถึงมัน จนกระทั่ง เจอคุณ @Joe9L9 มาบอกว่า ช่วยเขียน Blog ให้สักอันเพื่อความกระจ่างทีเถอะครับ มันก็เลยเป็นที่มาของ Blog นี้
เกริ่นไปแล้ว เราก็มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า อย่างที่บอกว่า เรามาเริ่มเรื่องกันที่ G+
เรื่องที่จะเขียน ผมคงไม่ไปเขียนซ้ำกับชาวบ้าน คงไม่ต้องไปสอนจรเข้ว่ายน้ำ (หรือว่า ถ้าอยากให้เขียนก็บอกคับ จะได้ย้อนกลับมาเขียนใหม่) ฉะนั้น คงจะขอเริ่มเรื่องของ Feature ในเบื้องลึกของ G+ ที่หลายคนยังค้างคาใจ นั่นคือเรื่องของ Circle ละกันคับ หรือที่ภาษาไทยหลาย ๆ คนใช้คำว่า "แวด วง"
ก่อนจะพูดถึง Circle ของ G+ คงต้องย้อนกลับไปดูอดีตอันหอมหวานของ Social Network (SN) 2 ตัวก่อนหน้านี้อันลือลั่น คือ Twitter และ Facebook หลาย ๆ คนคงเข้าใจหลักการของทั้งสองตัวนี้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ ผมอธิบายเป็นคำพูดง่าย ๆ แบบนี้ละกันคับ
Twitter เหมือนวิทยุ เราอยากประกาศอะไรก็ประกาศออกไป คนไหนอยากฟัง ก็มา Follow รับที่เราประกาศ ดังนั้น เราไม่ต้องไปตามล่าหาคนฟัง แต่คนฟัง จะมาตามล่าหาเราเอง เราแค่ทำตัวเหมือน DJ ไปเรื่อย ๆ ก็พอ ถ้าเราจัดรายการถูกใจ คนอยากมาฟังก็เยอะขึ้นตามลำดับ
Facebook อันนี้ เหมือนเขียนจดหมาย เราต้องรู้จักที่อยู่ ผู้รับ และผู้รับก็ต้องรู้จักผู้ส่ง สารที่เราส่งออกไปจะถึงผู้รับเฉพาะคนที่เรารู้จักและต้องการจะให้ถึงเท่านั้น (โดยการเลือก Share จาก Friends) ในทำนองเดียวกัน เราก็จะได้รับจดหมายจากคนที่เรารู้จักส่งมาหาเราเช่นกัน เป็นการตอบโต้ของคนรู้จักกัน ผ่านหน้าจอ News Feed
คงพอมองเห็นภาพแล้วนะคับ ส่วน G+ อันนี้เป็นอีก Concept เลย จะว่าเหมือนอีกสองอันก็เหมือน จะว่าไม่เหมือนก็ไม่เหมือนจริง ๆ อย่าพึ่งงงนะคับ เดี๋ยวจะอธิบายเพิ่มเติม
G+ นั้น ชู Concept ของการแบ่งกลุ่มที่เรียกว่า Circles (ซึ่งการจัดกลุ่มนั้น ว่าตามกัน ของ Facebook ก็มีจัดเพื่อนเป็น Lists เหมือนกัน) ซึ่ง Circles ของ G+ นั้น ออกจะชัดเจนกว่า Lists ใน Facebook มากนัก
เอาเป็นว่า อย่าพึ่งงงละกันคับ ขอแยกเรื่อง Circles ออกมาเป็น 2 มุมก่อนละกัน คือ มุมของเราที่จะอ่าน Content ของคนอื่น กับ มุมของเราต้องการจะเขียน Content ให้คนอื่นอ่าน
มุมแรก คือ การจัด Circles ในมุมของเรา ที่จะไปอ่าน Content ของคนอื่น อันนี้ Concept คล้าย Twitter มากครับ คือ ไป Search หาชื่อคนที่เราอยากอ่านมา แล้วก็ลากเข้าไปใน Circles จะลากเข้าไปใน Circles ไหนก็ได้ คนที่เราอยากอ่านก็จะขึ้นมาใน Stream ก็เป็นอันเรียบร้อย ทีนี้ ถ้าเราอยากจัดกลุ่มที่อยากอ่าน เราก็จัดลากคนเข้าไปใน Circles ในเรื่องเดียวกันซะ แล้วเราก็เลือก Circles list นั้นใน Stream เราก็จะได้อ่านเฉพาะเรื่องของ Circles นั้น ๆ
ยกตัวอย่างเช่น ผมจัดคนเข้าไปใน Circles เรื่อง หนัง จักรยาน เพลง สามวง ผมสามารถเลือกอ่านได้ทีละวง หรือจะเลือก stream เพื่ออ่านคนที่เรา add มาใน Circles ทั้งหมดได้ด้วย
จะเห็นว่า คล้าย ๆ กับ Twitter และ List ใน Twitter อย่างมาก อันนี้ ไม่น่ายากเกินความเข้าใจกันนะคับ
มุมที่สอง คือ การจัด Circles ในมุมที่เราต้องการเขียน Content ให้คนอื่นอ่าน มุมนี้ เป็นมุมที่หลาย ๆ คนนึกไม่ถึง แต่สำหรับผม ผมมองว่า เป็นมุมที่เจ๋งมากทีเดียว ถ้าคุณเป็น นักข่าว นักประชาสัมพันธ์ นักการตลาด นักยัดเยียด Content
เพราะว่า มันเป็นมุมที่คุณสามารถจะให้ใครอ่านอะไรก็ได้ ขอแค่คุณลากเขาเข้ามาใน Circles ของคุณ แล้วคุณก็เขียนเรื่องใส่ Circles นั้นลงไป !!!
เอาง่าย ๆ คุณรู้ว่า target group ของคุณเป็นใคร มีใครบ้าง เช่น นาย A B C เป็นคนด้าน IT ส่วนนาย D E F เป็นเพื่อนปั่นจักรยาน คุณก็แค่ยัดนาย A B C เข้า Circles IT แล้วก็ยัดนาย D E F เข้า Circles จักรยาน เมื่อนั้น เมื่อคุณ Post อะไรก็ตาม แล้วคุณ Share ไปใน Circles ไหน คนที่คุณจับยัดลงไป Content ที่คุณเขียน มันจะไปถึงเขาทันที ยิ่งถ้าเขามี คุณอยู่ใน Circles ตัว Content ของคุณมันก็เข้าไปอยู่ใน Stream ของเขาทันที ส่วนถ้าไม่มี มันก็จะไปอยู่ใน Incoming !!!
อ่านแล้ว หลายคนก็ยังทำหน้าแบบว่า แล้วยังไงเหรอคับ มันก็เป็นปกติ ธรรมดานี่ ~~~
ถูกครับ ถ้าเรื่องราวการใช้ มันก็คงธรรมดามีแค่นี้ แต่ในความเป็นจริง มันดันไม่ใช่แค่นี้หน่ะสิครับ
เหตุผลเพราะ มุมแรกที่ผมพูดถึงนั่นเอง !!! มุมที่คนเราอยากมาอ่าน มุมที่เขาเอาเราไปยัดไว้ใน Circles ของเขา ในมุมกลับกัน ผมไม่รู้จักเขา แต่ผมจับเขาใส่ Circles นึงไว้ได้ เป็น Circles พิเศษ ที่เวลาผมอยากเล่าอะไร เขียน Content อะไรก็ตาม คนกลุ่มนี้ ต้องได้อ่าน !!! ซึ่งแปลว่า ผมสามารถ ให้ Content กับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ได้ลงตัว โดยที่ผมไม่ต้องไปควานหาคนเพื่อจะมาอ่าน Content ของผมเลย แถมยังเป็น Content ที่ผมกลั่นกรองได้ซะอีก ว่าอยากให้เขาอ่านอะไร ไม่เหมือนใน Twitter ที่กลั่นกรองไม่ได้ โพสอะไรไป Follower ก็เห็นหมด !!!
ด้วยเหตุนี้ มีคนถามคำถามมาว่า แล้วจะจัดการกับคนที่มาขอ add ยังไง สำหรับผม ผมบอกไปเลยว่า จับยัดเข้า Circles เลยครับ หา Circles อะไรก็ได้สักอัน ใส่ไปก่อน ถ้ายังไม่รู้จะใส่อันไหน แล้วเวลาคุณอยากบอกอะไร ประชาสัมพันธ์ ขายของ การตลาดอะไรก็ตาม คนกลุ่มนี้ ยังไงก็ต้องเห็นคุณ แล้วถ้า Content คุณดี เดี๋ยวก็จะมีคนมาเอาคุณเข้าไปใน Circles เพื่ออ่าน คุณก็จับเขาลง Circles เพื่อจะกรองให้เขาได้เฉพาะข้อมูลที่คุณอยากให้อ่านได้ แค่นี้ คุณก็สามารถจัดให้เรื่องของคุณทีคุณอยากให้คนอ่านเยอะ ๆ มีคนอ่านที่ตรงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไม่ยากเย็นแล้วครับ
อีกอย่างที่ผมบอกว่าให้ยัดลงไปใน Circles สักอันไปก่อน เพื่อที่ว่า เวลาคุณจะคุยกับเพื่อน ใน Circles Friends หรือจะคุยกับครอบครับใน Family คนเหล่านี้ ก็จะไม่ต้องมาเห็นเรื่องส่วนตัวที่คุณคุยกัน ซึ่งทำให้คุณสามารถแยกเรื่องคุยเล่น กับเรื่องอยากเล่าให้โลกรู้ออกจากกันได้อย่างชัดเจนครับ !! เห็นไหมว่า จริง ๆ มันก็ดีไม่ใช่เล่น !!
อ่านถึงตอนนี้แล้ว หวังว่าหลายคนคงเข้าใจนะคับ
แต่ว่า เรื่องราวของ Circles ยังไม่จบ บางคนก็ยังสงสัยต่อว่า จะจัด Circles ยังไงดี เดี๋ยวไว้ตอนหน้าค่อยมาเล่าเป็นไอเดียของผมเองละกันครับ
ส่วนข้อดีข้อเสียของ G+ แน่นอน มันต้องมีเหมือนกัน ผมขอแปะเอาไว้ตอนต่อ ๆ ไปด้วยละกันคับ พออ่านแล้ว บางทีคุณอาจจะเห็นว่า G+ ตอบโจทย์คุณ ไม่ได้ดีไปกว่า Facebook ก็ได้ เอาไว้ค่อยมานั่งเขียนกันละกันครับ
เอาแค่เรื่อง Circles วันนี้ แก้งง (หรืองงหนัก) กันไปก่อน หวังว่าคงตอบโจทย์ คุณ @Joe9L9 ที่ทุ้มอยู่ในใจได้นะคับ
เรื่องราวของผม ผ่านสายตา และความคิด ผ่านลงบนแป้นพิมพ์ เป็นเรื่องราวที่เรียบเรียงบนหน้าเวป
วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เพราะความทุกข์มีไว้ให้เห็น ไม่ใช่มีไว้ให้เป็น
บางครั้ง การที่เราจมทุกข์มาก ๆ มีเรื่องเข้ามากระทบไม่ขาดสาย มันก็ทำให้เราได้เห็นอะไรอีกมุมกับชีวิตตัวเอง หลายครั้งที่ผมยอมรับว่า ความทุกข์ถาโถเข้ามา อารมณ์เกิดขึ้น ทั้งความรัก ความโกรธ ความเกลียด เกิดขึ้น
ทุกอย่างในใจ เรารู้ เราเห็น เรายอมรับ เห็นทุกอย่าง แต่ปล่อยมันไม่ออกสักอย่าง .... แต่สุดท้ายเวลาผ่านไป เมื่อเราเห็นมันอยู่ตลอดเวลา มันก็ทำอะไรเราไม่ได้
ผมไปเจอโฆษณาอันนึงของพี่เบิร์ด ทำร่วมกับเสถียรธรรมสถาน ดูครั้งแรกถึงเป็นแค่โฆษณาสั้น ๆ แต่คำบางคำก็เข้าไปถึงข้างในจริง ๆ
"เพราะทุกข์ มีไว้ให้เห็น ไม่ใช่ มีไว้ให้เป็น"
โฆษณาพี่เบิร์ดครับ
ทุกอย่างในใจ เรารู้ เราเห็น เรายอมรับ เห็นทุกอย่าง แต่ปล่อยมันไม่ออกสักอย่าง .... แต่สุดท้ายเวลาผ่านไป เมื่อเราเห็นมันอยู่ตลอดเวลา มันก็ทำอะไรเราไม่ได้
ผมไปเจอโฆษณาอันนึงของพี่เบิร์ด ทำร่วมกับเสถียรธรรมสถาน ดูครั้งแรกถึงเป็นแค่โฆษณาสั้น ๆ แต่คำบางคำก็เข้าไปถึงข้างในจริง ๆ
"เพราะทุกข์ มีไว้ให้เห็น ไม่ใช่ มีไว้ให้เป็น"
โฆษณาพี่เบิร์ดครับ
วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
เพราะความทุกข์มีไว้ให้เห็น ไม่ใช่มีไว้ให้เป็น
บางครั้ง การที่เราจมทุกข์มาก ๆ มีเรื่องเข้ามากระทบไม่ขาดสาย มันก็ทำให้เราได้เห็นอะไรอีกมุมกับชีวิตตัวเอง หลายครั้งที่ผมยอมรับว่า ความทุกข์ถาโถเข้ามา อารมณ์เกิดขึ้น ทั้งความรัก ความโกรธ ความเกลียด เกิดขึ้น
ทุกอย่างในใจ เรารู้ เราเห็น เรายอมรับ เห็นทุกอย่าง แต่ปล่อยมันไม่ออกสักอย่าง .... แต่สุดท้ายเวลาผ่านไป เมื่อเราเห็นมันอยู่ตลอดเวลา มันก็ทำอะไรเราไม่ได้
ผมไปเจอโฆษณาอันนึงของพี่เบิร์ด ทำร่วมกับเสถียรธรรมสถาน ดูครั้งแรกถึงเป็นแค่โฆษณาสั้น ๆ แต่คำบางคำก็เข้าไปถึงข้างในจริง ๆ
"เพราะทุกข์ มีไว้ให้เห็น ไม่ใช่ มีไว้ให้เป็น"
โฆษณาพี่เบิร์ดครับ
ทุกอย่างในใจ เรารู้ เราเห็น เรายอมรับ เห็นทุกอย่าง แต่ปล่อยมันไม่ออกสักอย่าง .... แต่สุดท้ายเวลาผ่านไป เมื่อเราเห็นมันอยู่ตลอดเวลา มันก็ทำอะไรเราไม่ได้
ผมไปเจอโฆษณาอันนึงของพี่เบิร์ด ทำร่วมกับเสถียรธรรมสถาน ดูครั้งแรกถึงเป็นแค่โฆษณาสั้น ๆ แต่คำบางคำก็เข้าไปถึงข้างในจริง ๆ
"เพราะทุกข์ มีไว้ให้เห็น ไม่ใช่ มีไว้ให้เป็น"
โฆษณาพี่เบิร์ดครับ
วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
Nebular on the earth
ยามพลบค่ำ คืนนี้ไม่เหมือนหลาย ๆ คืนที่ผ่านมา เมฆฝนพาดผ่าน ลมพัดแรง ทำท่าเหมือนฝนจะตก
เมฆก้อนโต ๆ ลอยผ่านตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม เป็นรูปร่าง ขวนให้นึกถึง กลุ่มเมฆกลางอวกาศที่เราเรียกว่า เนบิวล่า
ไฟเขียว รถออกวิ่ง เหมือนเรากำลังขับรถผ่านลอยไปในอวกาศทีเดียว ...
โลกกับอวกาศคงไม่ได้ไกลกัน คนเรากับธรรมชาติก็คงไม่ได้ห่างไปไหนเช่นกัน
Nebular on the earth
ยามพลบค่ำ คืนนี้ไม่เหมือนหลาย ๆ คืนที่ผ่านมา เมฆฝนพาดผ่าน ลมพัดแรง ทำท่าเหมือนฝนจะตก
เมฆก้อนโต ๆ ลอยผ่านตัดกับท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม เป็นรูปร่าง ขวนให้นึกถึง กลุ่มเมฆกลางอวกาศที่เราเรียกว่า เนบิวล่า
ไฟเขียว รถออกวิ่ง เหมือนเรากำลังขับรถผ่านลอยไปในอวกาศทีเดียว ...
โลกกับอวกาศคงไม่ได้ไกลกัน คนเรากับธรรมชาติก็คงไม่ได้ห่างไปไหนเช่นกัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)