ไปเที่ยวตลาดอัมพวามากับครอบครัวของพี่เอื้อง และพี่หน่อย ซึ่งจริง ๆ จะมีพี่โย่งไปด้วย แต่ด้วยความที่พี่โย่งแกติดงานด่วนขึ้นมา แกก็เลยเบี้ยวเอาดื้อ ๆ ก็เลยไปกันแค่หกคน มีพี่เอื้อง พ่อพี่เอื้อง พี่หน่อยแล้วก็พ่อแม่ พี่หน่อยแล้วก็ตัวกระผมเอง
เนื่องจากวันนั้นต้องเรารถไปเข้าอู่ เลยทำให้ต้องขับรถไปทีหลังเอง พอขับรถไปถึงก็พบว่า .. แต่ละคนเริ่มลงมือเดินและกินกันแล้วคับ
สังเกตุมุมซ้ายล่างจะเห็นชามก๋วยเตี๊ยวไวไว ข้างหลังมีชามก๋วยเตี๋ยว กับปลาหมึกย่างวางอยู่อีก
กินกันที่ร้านนี่แหละคับ ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูต้มยำรสเด็ด ชามละแค่ 10 บาทเองคับ แต่ต้องกินสัก 3 ชามถึงจะอิ่ม
ชามเดียวไม่พอจริง ๆ นะเนี่ย แถมรสชาติจัดจ้านน่ากินจริง ๆ
--------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากกินเสร็จก็ไปนั่งเรือ ล่องแม่น้ำเที่ยวกันคับ พี่หน่อยกับพ่อแม่นั่งคู่กันกำลังล่องเรือออกจากตลาดน้ำ
บรรยากาศริมสองฝั่งของตลาดน้ำอัมพวา จะประกอบด้วยร้านค้าต่าง ๆ ริมสองฝั่งแม่น้ำ พร้อมกับเรือที่แล่นอยู่ในคลอง ทั้งที่ไว้โดยสาร และขายของ
เห็นเขาติดอยู่ท้ายเรือคับ
"เก่า แต่ เก๋า"
เอ ต้องมีภาพประกอบไหมเนี่ย
เบื้องหน้าคับ สังเกตุรูปประกอบตัวหนังสือ เก่าแต่เก๋าจริง 5555
พี่เอื้องนั่งหน้าคับ สังเกตุแกเอาแต่ถ่ายรูปจริง ๆ อย่างอื่นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
รีบหันหน้ามาเชียว แบบว่า รู้นะว่าแอบนินทาอยู่
เบื้องหลังตากล้องหญิง ยามเย็น ถ่ายพระอาทิตย์กำลังจะตก
ได้ไปแวะที่วัดที่โบสถ์ถูกต้นไม้ปกคลุมหมดแล้วครับ
มุมนี้เป็น unseen thailand เชียวนะ
พี่เอื้องขอสักรูป
พี่หน่อยขอด้วย อีกรูป มุมเดียวกัน
มุมนี้ Unseen จริง ๆ เพราะว่าเห็นพระประธานนั่งอยู่ในโบสถ์ และเห็นหน้าต่างที่ถูกปกคลุมด้วยต้นไม้เรียบร้อยแล้ว
ตลาดน้ำยามเย็น เห็นปากคลองที่ต่อกับแม่น้ำแม่กลองไกล ๆ ยามเย็นคนคราคร่ำมากมาย ยิ่งกว่าจตุจักรอีกครับ
ขนมบางอย่างที่เราเคยกินกันสมัยเด็ก ๆ สมัยนี้หาไม่ได้ในกรุงเทพแล้ว แต่ที่นี่ยังมีให้เห็นอยู่
ส่งท้ายด้วยรูปนี้คับ
แวะมาครั้งหน้า อย่าลืมมาส่งโปสการ์ดที่นี่นะคับ ร้านกาญจนพานิชมีตู้จดหมายสีแดงเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าร้าน